ปัจจุบันร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นและในไทยเองก็เริ่มมีการติดตั้งระบบเคาท์เตอร์เก็บเงินแบบไร้พนักงาน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลรายละเอียดการซื้อจากข้อมูลพฤติกรรมที่ได้จากกล้องและ เซ็นเซอร์ AI ข้อมูลบาร์โค้ดที่สแกนโดยลูกค้าเอง ข้อมูลที่ใช้แยกระบุสินค้าหรืออุปกรณ์ที่ติดไว้กับตะกร้าสินค้าแบบพิเศษ ฯลฯ
 
นอกจากนี้วิธีการชำระเงินก็ยังมีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินอิเลคทรอนิกหรือระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น AI และ IoT ยังมีบทบาทสำคัญในการเติมสต็อกสินค้า ด้วยการติดตั้งระบบที่มีการเชื่อมโยง กันระหว่าง AI และกล้องเซ็นเซอร์ ทันทีที่ลูกค้าหยิบสินค้า กล้องจะรับรู้ได้ทันทีและทำการนับจำนวนสินค้า ในสต็อกบนชั้นวางสินค้า และ AI จะเป็นตัวตัดสินใจช่วงจังหวะเวลาที่จำเป็นต้องเติมสินค้าและแจ้งคำสั่ง การเติมสินค้า ทำให้สามารถทราบช่วงเวลาที่ต้องเติมสินค้าและจำนวนการเติมสินค้าได้จากระยะไกล จึงทำให้ร้านค้าสามารถดำเนินการได้แม้ว่าจะไม่มีคนอยู่ในร้านก็ตาม จากกระบวนการประหยัดแรงงาน ดังกล่าวนี้นำไปสู่การลดต้นทุนแรงงานเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการหลีกเลี่ยงปัญหา การขาดสินค้าได้ ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าร้านค้าที่เปลี่ยนไปใช้ระบบเคาน์เตอร์เก็บเงินไร้พนักงานและร้านค้า ไร้พนักงานจะมีการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว